หลังจากไทยปลดล็อกกัญชา กัญชง ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงมีเงื่อนไขและข้อจำกัดในการปลูก โดยสามารถขออนุญาตปลูกได้ แต่ควรมีระบบควบคุมดูแลเพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้เเละป้องกันการนำไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์
โดยเบื้องต้นหากทางผู้ประกอบการและเกษตรกรต้องการปลูกจะแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อใหญ่ดังนี้
1. การขอพื้นที่ปลูก มี 3 รูปแบบได้แก่
- ปลูกกลางแจ้ง
- โรงเรือนทั่วไป(Greenhouse)
- โรงเรือนระบบปิด
2. พื้นที่ปลูกต้องไม่ขนาดเกิน 50 ตารางเมตร
ไม่จำเป็นต้องมีกล้องวงจรปิด แต่ต้องมีการป้องกันบุคคลภายนอก เช่น กุญแจล็อก หากโครงการที่ได้รับอนุญาตเดิม ประสงค์จะขอใช้ประโยชน์จากใบ กิ่ง ก้าน ราก ไม่ต้องขออนุญาตใหม่ ให้แจ้งขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงแผนการใช้ประโยชน์ในโครงการ
3. ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปปลูกกัญชาได้เอง
แต่สามารถรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือสหกรณ์การเกษตร โดยร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ เพื่อขออนุญาตปลูกกัญชาได้
บริษัท ศูนย์ห้องปฏิบัติการและวิจัยทางการแพทย์และการเกษตรแห่งเอเซีย (AMARC) สามารถให้บริการทดสอบ วิเคราะห์ อาทิ สาร Cannabidiol (CBD) กัญชงกัญชา อาทิ กัญชาสำหรับวัตถุดิบ กัญชาทางการแพทย์ ยา น้ำมันกัญชา ตำรับยาแผนไทย อาหาร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง อีกทั้งยังทดสอบโลหะหนัก อาทิ แคดเมียม(Cd) ตะกั่ว(Pb) สารหนู(As) ปรอท(Hg) โครเมียม(Cr) และยังมีปริมาณสารสำคัญ สารพิษจากเชื้อรา สารปนเปื้อนจุลินทรีย์ สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชตกค้าง และสารประกอบของกรดไขมัน เป็นต้น
ที่มา: Facebook fanpage กัญชาชน (2021, November)